วันเสาร์ที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2563

Because You'll never Meet Me by Leah Thomas

 


Title : Because You'll Never Meet Me
Author : Leah Thomas
Genre : YA / Contemporary
Published : July 2nd 2015 by Bloomsbury Children's Books

เรื่องย่อ : 

โอลลี่ และโมริส เป็นเพื่อนรักกัน แต่พวกเขาไม่เคยได้พบกันเลยซักครั้ง โอลลี่มีอาการแพ้กระเเสไฟฟ้าอย่างรุนแรง แค่สัมผัสเพียงนิดเดียว เขาเป็นต้องชักทุกที ในขณะที่หัวใจของโมริสยังเต้นอยู่ได้เพราะเครื่องกระตุ้นหัวใจ ถ้าเกิดทั้งสองคนได้พบกัน.. โอลลี่ก็จะชัก แต่โมริสก็ต้องตายถ้าไม่มีเครื่องกระตุ้นหัวใจ มิตรภาพของเด็กหนุ่มที่แสนโดเดี่ยวค่อยๆเติบโตขึ้นผ่านทางจดหมาย ที่กลายมาเป็นเส้นชีวิตผ่านช่วงเวลาแสนมืดมน -- โอลลี่ ต้องสูญเสียลิซ เพื่อนเพียงคนเดียวของเขา เพราะเธอกลับไปใช้ชีวิตนักเรียนไฮสคูลเหมือนเด็กปกติ และ โมริส ต้องคอยรับมือกับการกลั่นแกล้งที่มีขึ้นเพื่อทำลายชีวิตเขา

รีวิว + สปยล์ :

โอลิเวอร์ หรือ โอลลี่ เด็กชายวัย 14 ปี มีอาการแพ้กระแสไฟฟ้าอย่างรุนแรง เพียงแค่ถ่านก้อนเล็กๆก็ทำให้เขาชักได้ง่ายๆ แม่ของเขาจึงตัดสินใจย้ายมาอยู่ในป่าที่ห่างไกลจากผู้คนและเครื่องใช้ไฟฟ้า หมอที่รักษาโอลลี่เองก็แนะนำให้เขาลองเขียนจดหมายคุยกับโมริส เด็กหนุ่มวัยใกล้เคียงกันเพื่อที่เขาจะได้มีเพื่อนคุยเหมือนเด็กคนอื่นๆ 

แรกเริ่ม ทั้งคู่ต่างไม่ไว้ใจที่จะเล่าความลับของตัวเองให้กันและกันฟัง แต่เมื่อเวลาผ่านไป มิตรภาพค่อยๆเติบโตขึ้นผ่านจดหมายแต่ละฉบับ โมริสเล่าว่า เขาตาบอด แต่จะพูดอย่างนั้นคงไม่ถูกนัก เพราะจริงๆแล้ว บนใบหน้าของเขา ไม่มีเบ้าตาด้วยซ้ำ เขาสามารถมองเห็นโดยวิธีรับเสียงสะท้อนเช่นเดียวกับปลาโลมา (Echolocation) และด้วยความที่เขาแตกต่างจากคนอื่นนี้ ทำให้โมริสมักเป็นเป้าถูกเพื่อนแกล้งเสมอ เขาใช้เวลาในแต่ละวันราวกับว่าตัวเองไม่มีตัวตน และโอลลี่เป็นเพื่อนคนแรกและคนเดียวของเขา 

โอลลี่ ยกย่องความสามารถพิเศษของโมริสว่าเหมือนกับพวกซุปเปอร์ฮีโร่ และโมริสควรใช้มันเอาคืนกับเลนซ์ เด็กที่คอยรังแกตัวเองเพราะกำลังใจจากโอลลี่ โมริสจึงยอมลุกขึ้นสู้เลนซ์ จนเขาได้รู้จักกับเพื่อนใหม่อย่าง ฟีคู และ โอเว่น

โมริสสังเกตเห็นความผิดปกติในจดหมายจากโอลลี่ เพื่อนที่เคยร่าเริง กลับเอาแต่หมกตัวอยู่แต่ในห้อง เขาจึงคอยให้กำลังใจโอลลี่เช่นเดียวกัน โอลลี่รู้สึกหมดอาลัยตายอยาก เพราะตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา ลิซ เด็กสาวที่เคยเล่นกับเขา แทบไม่มาเยี่ยมเขาเลย แม้ว่าโอลลี่อยากจะเจอเธอแค่ไหน เขาก็ไม่สามารถออกไปจากป่านี้ได้ โลกภายนอกเต็มไปด้วยเครื่องใช้ไฟฟ้ามากมาย ผู้คนแทบไม่เคยห่างจากโทรศัพท์มือถือ เพียงแค่แนวเสาไฟฟ้าตรงชายป่าก็แทบจะเหวี่ยงเขาให้กระเด็นเหมือนแม่เหล็กขั้วเดียวกัน โอลลี่ยังคงยึดติดกับวันเวลาเก่าๆ ในขณะที่ลิซกำลังก้าวไปข้างหน้า ใช้ชีวิตเหมือนเด็กทั่วไป เรียนหนังสือ ออกเดท เขาคิดว่า เพราะเหตุการณ์ในวันนั้น คงทำให้ลิซเกลียดเขาแล้วจริงๆ

เมื่อตอนฤดูร้อน ก่อนลิซจะขึ้นม.ปลาย เด็กทั้งสองคนและลุงของลิซ ออกไปตั้งแคมป์ล่าสัตว์ด้วยกันในป่า โอลลี่อาศัยช่วงเวลาที่แสนจะเพอร์เฟ็คเปิดเผยความรู้สึกที่มีต่อลิซ ซึ่งลิซเองก็เหมือนจะมีใจให้เขาเช่นกัน แต่แล้วช่วงเวลาดีๆก็หายวับไป เมื่อมีเสียงปืนดังขึ้นมาแต่ไกล เด็กทั้งสองคนออกวิ่งไปตามเสียงนั้น และพบลุงตกลงมาจากที่ส่องสัตว์บนต้นไม้ ลิซขอให้โอลลี่ไปเอาโทรศัพท์มือถือที่เต๊นท์มาให้ โอลลี่ลังเล เพราะเขารู้ตัวดีว่าเขาไม่อาจสัมผัสมันได้ แต่เขาไม่มีทางเลือก เพียงแค่หยิบโทรศัพท์ขึ้นมา กระเเสไฟฟ้าก็ทำให้เขาเจ็บแสบจนเผลอทำร่วง โอลลี่จำต้องทนเจ็บและนำโทรศัพท์ไปให้ลิซ แต่ว่ามันก็พังไปเสียเเล้ว ลิซโมโหมาก และต่อว่าเขาอย่างรุนแรง ถ้าเพียงคนที่อยู่กับเธอไม่ใช่โอลลี่ เรื่องก็คงไม่แย่แบบนี้!

หลังจากเหตุการณ์นั้น  โอลลี่ก็ไม่ได้พบลิซอีกเลย จนกระทั่งหลายเดือนผ่านไป เขาเจอเธอมาเก็บของที่บ้านของลุงตรงชายป่า ตอนนี้ลิซมีแฟนแล้ว เป็นรุ่นพี่ปี 3 ทั้งคู่วางแผนอนาคตไว้อย่างดิบดี ในขณะที่โอลลี่อาจต้องติดอยู่ในป่า..ไปจนตลอดชีวิต

โมริส ขาดการติดต่กับโอลลี่ไป เพราะเขาไม่อาจสู้หน้าโอลลี่ได้ แต่ถึงอย่างไร โอลลี่ก็ยังส่งจดหมายมาให้กำลังใจเขาตลอด ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น พวกเขาก็ยังเป็นเพื่อนกันเสมอ ในที่สุด..โมริสจึงยอมเล่าให้โอลลี่ฟังว่า ฟีคู โอเว่น และโมริส วางแผนจะเอาคืนเลนซ์ แต่แผนเกิดผิดพลาด ทำให้เขาพลั้งมือทำร้ายเลนซ์จนอาการสาหัส โมริสรู้สึกผิดจนไม่กล้าออกจากห้องนอน แต่ด้วยกำลังใจจากโอลลี่ เขาจึงกล้าเผชิญหน้ากับความผิดที่ตัวเองเป็นคนก่อ โชคเข้าข้างที่พ่อของเลนซ์ไม่เอารื่องเพราะรู้นิสัยของลูกดี 

โอเว่นสารภาพรักกับโมริส แต่เขาไม่อาจตอบรับความรู้สึกนั้นได้ เพราะเขามีคนที่รักอยู่แล้ว และคนๆนั้นก็คือ โอลลี่ แม้ว่าพวกเขาจะไม่มีวันได้พบกันก็ตาม...

โอลลี่ ได้รับชุดกันไฟฟ้า เป็นของขวัญจากโมริส โมริสเล่าว่า ที่จริงแล้ว พวกเขาทั้งสองคนเป็นด็กพิเศษที่โตขึ้นมาในแล็บในเยอรมันนี เดิมทีวัตถุประสงค์ของแล็บเป็นไปเพื่อหาทางรักษาโรคให้แก่ผู้คน แต่ต่อมากลับเปลี่ยนป็นเพื่อสร้างด็กพิเศษแทน แต่ด้วยผลการทดลองที่ล้มเหลวอย่างต่อเนื่อง แล็บจึงต้องปิดตัวลง โอลลี่ยังได้รับฟังเรื่องราวจากหมอที่รักษาเขาว่า พ่อของโอลลี่มาขอร้องให้ตนช่วยรักษาภรรยา หรือแม่ของโอลลี่ เพราะเธอมีโอกาสที่จะแท้งสูงมาก และการได้รับรังสีอย่างต่อเนื่องในตอนนั้น ส่งผลให้แม่ของเขาป่วยเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย

โอลลี่ใส่ชุดกันไฟฟ้าไปหาลิซที่งานเต้นรำ แต่คู่เดทของลิซกลับดึงหน้ากากออก ทำให้เขาโดนกระแสไฟฟ้ารอบตัวเล่นงานจนล้มลงไปดิ้นทุรนทุรายอยู่บนพื้น แต่ครั้งนี้โอลลี่ไม่ยอมแพ้เหมือนครั้งก่อนๆ เสียงกรีดร้องของเขาทำให้หม้อแปลงของโรงเรียนพัง เด็กนักเรียนต่างวิ่งหนีออกจากโรงยิมด้วยความหวาดกลัว มีเพียงลิซที่ยังอยู่กับเขา จากเหตุการณ์นี้เขาได้เรียนรู้ว่า หากเขาไม่ปล่อยให้ตัวเองอ่อนแอ กระแสไฟฟ้าก็จะทำอะไรเขาไม่ได้ และถ้าเขารักษาระยะห่างไว้ เขาก็พอจะใช้ชีวิตร่วมกับมันได้บ้าง พอได้ฟังทฤษฎีของโอลลี่ ลิซดีใจที่เขาจะสามารถเข้าเรียนได้เหมือนเด็กคนอื่นๆ แต่โอลลี่ก็ปฏิเสธ

หลังเสร็จงานศพแม่ โอลลี่ตั้งใจจะออกเดินทางไปกับคุณหมอเพื่อไปเยี่ยมเยียนเด็กพิเศษคนอื่นๆ เขาไม่ยอมให้ลิซไปด้วยกัน เพราะเธอควรจะเดินตามความฝันของเธอ ส่วนเขาก็จะลองเริ่มต้นใช้ชีวิตของตัวเองบ้าง และหวังว่าสักวันนึงเขาจะได้พบกับโมริสเหมือนที่เขาฝันไว้มาตลอด...

การเล่าเรื่อง : เล่าผ่านจดหมาย โต้ตอบกันระหว่างโอลลี่กับโมริส

ภาษา : กลาง - ยาก มีภาษาเยอรมันด้วยนะเออ

ความรู้สึกหลังอ่าน : เนื้อเรื่องออกแนว heartwarming เราชอบที่โอลลี่ กับโมริส คอยให้กำลังใจกันตลอด เราเข้าใจเลยว่า เวลารู้สึกแย่ๆ แค่ได้คำพูดให้กำลังใจจากใครสักคน ถึงแม้ว่าจะไม่เคยพบกัน มันก็ทำให้รารู้สึกดีขึ้นได้ (อย่างเพื่อนในเน็ตไรงี้) แอบช็อคตรงที่โมริสเป็นเกย์ แล้วแอบชอบโอลลี่อยู่ เรานี่ร้อง เฮ้ยย ออกมาเลย 55 มีที่ไม่ชอบนิดนึง คือเรื่องราวเกี่ยวกับเเล็บเราว่ามันเวอร์ไปหน่อย แต่โดยรวมก็ถือว่าดีงามมมมมม *ปรบมือ*

คะแนน : 5/5

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น